เรื่องเล่าความดี-ฉันตายไม่ได้

“ฉันตายไม่ได้”

นางสีนวน   พรหมศร

กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัวชุมชนและบริการปฐมภูมิ รพ.มวกเหล็ก

เรื่องเล่าของคุณป้าคนหนึ่งซึ่งทางงานเยี่ยมบ้านได้รับใบ บส. จาก รพ. สระบุรีให้ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยSTROKEรายหนึ่งเมื่อ team เข้าไปในบ้านก็ต้องตกใจตลึงกับภาพที่เห็นหัวเตียง 2 เตียงชนกันรายแรกเป็นผู้สูงอายุที่STROKEมาเมื่อ 5 ปีแล้วทางteam เคยดูแลอยู่แต่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่งช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อยพูดคุยรู้เรื่องไม่มีภาวะแทรกซ้อนเพิ่งย้ายเข้ามา และอีกเตียงหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ได้รับใบ บส. ให้ไปเยี่ยมบ้านข้าง ๆ เตียงทั้ง 2 เตียงมีหญิงชราวัย 76 ปีนั่งหน้าเศร้าอยู่อีก 1 คนข้าพเจ้าจึงเข้าไปพูดคุยกับหญิงชราคนนั้นและให้ team เยี่ยมผู้ป่วยทั้ง  2 ราย

เมื่อการสนทนาเริ่มขึ้น ; หญิงชราเริ่มเล่าด้วยใบหน้าเสร้าหมองน้ำตาเริ่มเอ่อในตาทั้ง 2 ข้างว่า: สิ่ง. มุติรอบครัวของเที่ไม่คาดฝันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดกับครอบครัวของเราเป็นคำพูดทั้งน้ำตาของป้าสม(อยู่นามสมมติ)เมื่อ 5 ปีก่อนสามีป่วยด้วยโรคอัมพฤกอัมพาตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่กับลูกสาวช่วยกันดูแลมาตลอดเพราะลูกสาวไม่ได้ทำงานเป็นแม่บ้านและขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่บ้าน 3 ปีต่อมาสามีของลูกสาวป่วยเป็นมะเร็งลำไส้และต้องได้รับการผ่าตัดลำไส้ออกมาทางหน้าท้องลูกสาวจึงต้องแบ่งเวลามาดูแลสามีแต่ก็ยังต้องช่วยดูแลพ่อที่ป่วยด้วยแต่ยายก็เกรงใจลูกสาวจึงคอยดูแลตาด้วยตัวเองตอนนั้นก็เริมเหนื่อยมากขึ้น…………(ป้าน้ำตาไหลพราก)……อยู่มาวันหนึ่งลูกสาวแขนขาอ่อนแรงพูดไม่ชัดปวดศีรษะอาเจียนและนิ่งไปป้าตกใจมากขณะนั้นไม่มีใครอยู่บ้านเลยจึงวิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านให้พาไปส่งโรงพยาบาลมวกเหล็ก ..(ลูกสาวไม่เคยป่วยและไม่เคยตรวจสุขภาพเลย)..ไปถึงโรงพยาบาลหมอออกมาบอกว่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ตั้งแต่วันนั้นป้าไม่เคยได้หลับตาลงเลยเฝ้าแต่คิดว่านี่มันเป็นเวรกรรมอะไรกันนักหนาจนกระทั่งลูกออกจากโรงพยาบาลลูกสาวคนโตได้รับทั้ง 2 คนมาไว้รวมกันโดยจัดหาสถานที่และเตียงมาให้อย่างที่หมอเห็นนี่แหละเวลากลางวันเขาไปทำงานกันหมดฉันคนเดียว ทั้งทำกับข้าวให้ตา อาบน้ำเช็ดตัวกว่าจะเสร็จก็เริ่มเหนื่อยนั่งพักเดี๋ยวนึงก็เริ่มมาช่วยเช็ดตัวให้ลูกสาวตัวก็ใหญ่มากกว่าจะเสร็จก็สายแล้วมากรอกอาหารใส่สายางให้เสร็จแล้วฉันค่อยมากินข้าวและกินยาความดันบางครั้งเสร็จจากคนป่วยก็ปวดหัวเวียนหัวต้องนั่งพักหรือนอน “

              หลังจากนั้นมาวางแผนงานเยี่ยมบ้านทุกอาทิตย์ ๆ ละ1ครั้งเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระผู้ดูแลโดยการช่วยฟื้นฟูสภาพลูกสาวที่ STROKE ล่าสุดก่อน โดยการสอนลูกผู้ป่วยเรื่องการทำกายภาพบำบัดให้ขณะกลับจากโรงเรียน   1 เดือนผ่านไปก็เริ่มให้ฝึกกลืนนำแข็งเพื่อจะได้ไม่ต้องกินอาหารทางสายยางประมาณ 1 อาทิตย์ก็สามารถถอดสายยางออกได้และแขนขาข้างซ้ายเริ่มใช้การได้แต่ข้างขวายังอ่อนแรงอยู่จึงคิดทำนวตกรรมให้เพื่อแบ่งเบาภาระป้า ตอนแรกคิดแล้วให้ญาติทำแต่ผ่านไป 2 อาทิตย์ก็ยังไม่ได้ทำจึงคิดแบบและให้  คุณพูนทรัพย์ไปทำให้โดยใช้รอกผูกติดกับเหล็กยึดติดกับผนังใช้เชือกสอดใส่แล้วใช้ผ้าผูกที่ขาให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองโดยการใช้แขนข้างที่ดีดึงเชือกอกกำลังกายเองให้คุณป้ามีหน้าที่แค่นำผ้าไปผูกที่ขา และแขนให้   แต่การไปเยี่ยมแต่ละครั้งคุณป้าก็ยังมีท่าทางของการซึมเศร้าอยู่จึงวางแผนการให้เยี่ยมคุณป้าอย่างจริงจังขึ้นเพราะยิ่งนานวันถึงแม้ว่าเราจะแก้ปัญหาไปบางเรื่องแต่ก็ไม่อาจหมดไปได้

 เราจึงพูดคุยกับป้ามากขึ้นเพื่อหาปัญหาและ ให้ป้าผ่อนคลาย ตรวจสุขภาพวัดความดันและรับยาไปส่งให้ที่บ้านไม่ต้องกังวลเรื่องการมารับยา   วางแผนให้ อสม.ใกล้บ้านไปเยี่ยมเยียนพูดคุยให้ป้าดีใจสดชื่นขึ้นยิ้มแย้มมากขึ้นออกมานั่งคุยนอกบ้านมากขึ้น………2-3 เดือนต่อมาป้าเริ่มซึมเศร้าอีกไปเยี่ยมแต่ละครั้งป้าพูดน้อยลงนอนขดอยู่ที่เตียงเศร้าซึมแล้วบ่นว่า ‘เหนื่อยจังกลางคืนก็นอนไม่หลับ ไม่รู้มันเวรกรรมอะไรของฉัน’ ทำให้ต้องวางแผนหาสาเหตุต่ออีกว่าป้าเริ่มเครียดเรื่องอะไรหลังจากพูดคุยไปสักระยะหนึ่งป้าก็เริ่มบอกว่า”วัดวาไม่ได้ไปกับเขาเลยบุญไม่ทำกรรมมันเยอะแท้”หลังจากนั้นมาเราก็พบว่าผู้สูงอายุจะขาดเรื่องของการทำบุญไม่ได้  ทางTEAMก็เลยนัดพบกับญาติเพื่อหาวันที่ญาติหยุดงานหรือเวลาว่างเพื่อพาป้าไปวัดทำบุญหรือตักบาตรตอนเช้าไม่รู้มันเวรกรรมอะไนของฉันับบ่นว่า  เมื่อนัดกับญาติได้แล้วทำความเข้าใจกับญาติว่าวันจันทร์-ศุกร์ให้ช่วยป้าได้ใส่บาตรอย่างน้อย 3วัน และวันเสาร์-อาทิตย์ให้พาป้าไปวัดที่ป้าอยากไปและเที่ยวพักผ่อนบ้างหรือถ้าวันพระตรงกับวันหยุดก็ให้พาป้าไปทำบุญที่วัดนอกจากป้าจะได้ทำบุญแล้วป้ายังได้คุยกับเพื่อนบ้านเพื่อนวัยเดียวกันปัจจุบันป้าสีหน้าสดชื่นขึ้นยิ้มแย้มพูดคุยมากขึ้นนอนหลับได้ดีขึ้น  เมื่อเราไปเยี่ยมบ้านเรารู้สึกมีความสุขที่เห็นป้านั่งยิ้มและส่งเสียงทักทาย “หมอแหม่มมาแล้ววันนี้มากันเยอะแยะเลยวันนี้งานป้าเสร็จเร็วหลานช่วยตั้งแต่เช้าเขาให้ป้าไปคอยใส่บาตรเดี๋ยวนี้ได้ใส่บาตรเกือบทุกวันเลย ป้าชอบใส่บาตรใส่แล้วป้าสบายใจ วันหยุดป้าก็ได้ไปนะหมอลูกเขาพาไป” พวกเราดีใจมากเสมือนเราได้ทำบุญครั้งยิ่งใหญ่และเป็นพลังเป็นกำลังใจสำหรับการทำงานเยี่ยมบ้านของเราต่อไปและไม่มีวันไหนที่เราจะท้อเลยและยิ่งดีใจที่เมื่อเราพบหน้ากันในTEAMเราทุก ๆเช้าน้อง ๆ ก็จะถามว่าวันนี้เราจะไปเยี่ยมบ้านใครก่อนดี น้อง ๆไม่เคยปฏิเสธคนไข้ไม่ว่าจะร้องขอมาแบบไหนทางโทรศัพท์หรือจะเดินเข้ามาหาด้วยตัวเอง

               ขอขอบคุณพี่น้องโรงพยาบาลแพทย์พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ทุกคนทุกจุดที่ให้ความสะดวกกับทีมของเราเมื่อเรามาประสานงานหรือร้องขอความช่วยเหลือทุกครั้งสิ่ง ดี ๆแบบนี้ทีมเราดีใจที่มีอยู่ในโรงพยาบาลของเรา

Leave a Reply